การใช้งานแบตแอนดรอย และไอโฟนให้ยาวนานขึ้น

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ khaotv.online วันนี้เรายินดีนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจอีกครั้งเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี โดยในวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลและการใช้งานแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนไร้สาย รวมถึงไอโฟน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน มาฝากทุกท่านครับ

ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนมีฟีเจอร์หลากหลายที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิง การถ่ายภาพ การดูคอนเทนต์ หรือการเล่นเกม อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานไปนาน ๆ หลายคนอาจสังเกตว่าแบตเตอรี่เริ่มหมดเร็วขึ้น สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหานี้ ทีมงาน Khaotv.online มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากเพื่อช่วยแก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว ทั้งยังช่วยถนอมแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนให้อยู่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยสามารถทำได้ง่ายและสะดวกมาก

แม้ว่าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และลื่นไหลมาก แต่ปัญหายังคงอยู่ที่แบตเตอรี่ เมื่อเราใช้งานเต็มประสิทธิภาพ อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวัน ดังนั้นเราจึงต้องพกพาวเวอร์แบงค์หรือ เครื่องชาร์จ ติดตัวไปบ่อยๆ แต่หากเรามีเคล็ดลับในการประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนด้วยการปิดฟังก์ชันที่ไม่จำเป็น ก็จะช่วยไม่สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่ไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น จะทำให้แบตเตอรี่มีเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันหรือใช้งานได้ยาวนานขึ้น มีอะไรบ้าง มาดูกัน

เปิดโหมดประหยัดพลังงาน  โหมดประหยัดพลังงาน หรือ โหมดประหยัดพลังงาน

S 39452678 ด้านข้าง

การเปิดโหมดประหยัดพลังงานนั้นถือเป็นตัวเลือกแรกของใครก็ตามที่ต้องการประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน การเปิดโหมดประหยัดพลังงาน / โหมดประหยัดพลังงานต่ำ หรือ Power Saving Mode ถือเป็นฟีเจอร์ที่ดีมากในการช่วยลดการใช้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน แต่ในทางกลับกันสมาร์ทโฟนเองกลับทำให้ประสิทธิภาพการประมวลผลลดลง สังเกตได้ว่าเมื่อเราเปิดโหมดนี้ การแจ้งเตือน การเล่นเกม ฯลฯ อาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่หากใครอยากประหยัดแบตเตอรี่และไม่อยากให้แบตเตอรี่หมดไวๆ ก็สามารถเปิดโหมดนี้ได้

ปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้

ส 39452681

การใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน เช่น ฟังเพลง เล่นอินสตาแกรม หรือตอบแชทขณะดูยูทูป อาจทำให้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนลดลงอย่างมาก เนื่องจากสมาร์ทโฟนของคุณใช้พลังงานในการประมวลผลมากขึ้น นอกจากนี้ การเปิดแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้งานค้างไว้ เช่น สลับไปใช้แอปพลิเคชันอื่นโดยไม่ปิดแอปพลิเคชันเดิม ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบปฏิบัติการ Android การทำเช่นนี้จะทำให้แอปพลิเคชันต่างๆ ทำงานได้ต่อไป การปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานจะช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น

ในทางกลับกัน สำหรับ iPhone การปิดแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้อาจทำให้เราคิดว่าเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ ทำให้ระบบทำงานน้อยลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว แอปพลิเคชั่นที่เราเปิดอยู่จะอยู่ในสถานะ “พักการใช้งาน” ในขณะที่เราใช้งานแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ (ยกเว้นแอปพลิเคชั่นที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เช่น แอปพลิเคชั่นแชทหรือโซเชียลมีเดียที่คอยอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอดเวลา) แต่หากเราปิดแอปพลิเคชั่นหรือเคลียร์แอปพลิเคชั่นทั้งหมด การเปิดแอปพลิเคชั่นใหม่แต่ละครั้งจะเปลืองแบตเตอรี่มากขึ้น เนื่องจากระบบจะต้องเปิดแอปพลิเคชั่นใหม่ตั้งแต่ต้น

ลดความสว่างหน้าจอ

DE770C30 764E 4482 B21B F6FFE5C6329B

ความสว่างของหน้าจอถือเป็นสิ่งที่กินไฟมากที่สุดอย่างหนึ่งในสมาร์ทโฟน บางคนใช้ระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ โดยจะปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ ณ ขณะนั้น อย่างไรก็ตาม การใช้ระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติยังทำให้แบตเตอรี่ของเราหมดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ หากเราไม่ได้อยู่ในพื้นที่กลางแจ้งหรือในบริเวณที่มีแสงสว่างมาก เราควรลดความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน

การปิดใช้งานการปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ:

  • แอนดรอยด์
    • คุณสามารถปิดคุณสมบัตินี้ได้ในการตั้งค่าการแสดงผลหรือความสว่าง
  • ไอโอเอส
    • ไปที่การตั้งค่า >> การช่วยการเข้าถึง >> การแสดงผลและขนาดข้อความ >> ปิดความสว่างอัตโนมัติ

อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ

7561A4EF 7778 4DC9 B63C DFB13820296A

การอัปเดตซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันใน App Store หรือ Play Store อย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของทั้งอุปกรณ์และแอปพลิเคชันเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แบตเตอรี่ของเราใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะการอัปเดตที่ช่วยปรับปรุงและแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน

เปิดใช้งานโหมดมืด

B9BFB9CD AFB3 4C06 8AF2 3F1B1F01AF8E

อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าความสว่างของหน้าจอมีผลกระทบอย่างมากต่อแบตเตอรี่ ปัจจุบันสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในช่วงราคาปานกลางถึงสูงหันมาใช้หน้าจอ OLED หรือ AMOLED ซึ่งเป็นหน้าจอที่ดูเหมือนฟิล์มและทำจากวัสดุอินทรีย์ที่สามารถเปล่งแสงได้เองโดยไม่ต้องอาศัยไฟแบ็คไลท์ นอกจากนี้ยังไม่เปล่งแสงในพื้นที่ที่มืดอีกด้วย การเปิด Dark Mode จะช่วยลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น นอกจากนี้การใช้ Dark Mode ยังช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้อย่างเราอีกด้วย

ลดอัตราการรีเฟรชหน้าจอ

S 39452690 ด้านข้าง

จุดเด่นประการหนึ่งของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันคืออัตราการรีเฟรชของหน้าจอ ซึ่งช่วยให้การใช้งาน การรับชมคอนเทนต์ และการเล่นเกมราบรื่นยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตรารีเฟรชอาจไม่จำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไปและยังสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่อีกด้วย การจำกัดอัตราการรีเฟรชของหน้าจอให้อยู่ที่ 60Hz ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและยังช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อีกด้วย

พยายามอย่าให้สมาร์ทโฟนของคุณร้อนเกินไป

ปัญหาไอโฟนร้อนเกินไป

ปัญหาใหญ่ประการหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วมากคือ สมาร์ทโฟนร้อนเกินไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จ การใช้เคสที่ไม่ระบายอากาศ การใช้โทรศัพท์ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด เป็นต้น สาเหตุทั้งหมดนี้ทำให้สมาร์ทโฟนของคุณร้อนเกินไป หากคุณใช้หรือเล่นโทรศัพท์ขณะที่อุปกรณ์ร้อนเกินไป แบตเตอรี่ของคุณจะหมดเร็วขึ้น ปัญหาอีกประการหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเล่นโทรศัพท์ขณะที่เครื่องร้อนคือปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

ปิดการเชื่อมต่อที่เราไม่ได้ใช้

DE770C30 764E 4482 B21B F6FFE5C6329B222

การเปิดการเชื่อมต่อทั้งหมดไว้ตลอดเวลาอาจทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณหมดเร็วได้เช่นกัน เนื่องจากการเชื่อมต่อไร้สายนั้นต้องอาศัยพลังงานแบตเตอรี่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปิด 5G หรือเปิด Wi-Fi ไว้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้ Wi-Fi ก็ตาม สมาร์ทโฟนของคุณจะยังคงค้นหาสัญญาณตลอดเวลาเพื่อเชื่อมต่อให้คุณโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้ใช้แบตเตอรี่มากขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือคุณควรปิด Wi-Fi โดยเฉพาะใน iPhone ขอแนะนำให้ปิด Wi-Fi ในหน้าการตั้งค่า เพราะการปิด Wi-Fi เฉพาะในแถบศูนย์ควบคุมจะทำให้ปิดใช้งานชั่วคราวเท่านั้น เมื่อพบสัญญาณ Wi-Fi ที่คุณเคยเชื่อมต่อหรือคุ้นเคย สมาร์ทโฟนของคุณจะเปิดและเชื่อมต่อให้คุณโดยอัตโนมัติตามปกติ

ห้ามใช้วอลล์เปเปอร์แบบเคลื่อนไหว

ส 39452689

นอกจากความสว่างของหน้าจอแล้ว การเลือกภาพพื้นหลังหรือวอลเปเปอร์ยังส่งผลต่อการใช้พลังงานแบตเตอรี่อีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบใช้ภาพเคลื่อนไหว จะทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ภาพพื้นหลังโทนสีสว่างก็ส่งผลต่อการใช้พลังงานแบตเตอรี่เช่นกัน แต่ไม่มากเท่ากับการใช้ภาพเคลื่อนไหว ดังนั้นหากใครอยากประหยัดแบตเตอรี่ แนะนำให้ใช้ภาพพื้นหลังปกติที่ไม่มีภาพเคลื่อนไหว

ตั้งเวลาล็อคหน้าจออัตโนมัติ

B7C801DA 6CC6 4761 B6B7 2B2EEF6CA659

การเปิดหน้าจอทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ได้ล็อกหน้าจอ จะทำให้สมาร์ทโฟนเปิดไฟไว้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่แบตเตอรี่จะหมดเร็ว ดังนั้นเราควรตั้งให้หน้าจอล็อกอัตโนมัติหลังจากไม่ได้ใช้งาน โดยเลือกระยะเวลาประมาณ 15 วินาทีหรือ 30 วินาทีก็เพียงพอแล้ว นอกจากการล็อกหน้าจออัตโนมัติจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนแล้ว ยังป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้ามารบกวนหรือใช้เครื่องของเราเมื่อเราลืมล็อกหน้าจอและทำอย่างอื่นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

  • คุณสามารถตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า >> จอภาพและความสว่าง >> ล็อกอัตโนมัติ

ปิดการแชร์ตำแหน่งบนแอปที่ไม่ได้ใช้งาน

S 11550963 ด้านข้าง

แอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งบนอุปกรณ์จำนวนมากมักจะให้เข้าถึงตำแหน่งของเราเพื่อรับข้อมูลที่แม่นยำ ฯลฯ หากเราเปิดตำแหน่งตลอดเวลา ระบบจะค้นหาตำแหน่งนั้นตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่ การปิดหรือจำกัดการค้นหาตำแหน่งปัจจุบันของเราจะช่วยประหยัดพลังงานและแบตเตอรี่ได้มากขึ้น

คุณสามารถเข้าไปที่ Settings >> Privacy >> Location Service >> จะมีรายชื่อแอพพลิเคชั่นที่ใช้ตำแหน่งของเราปรากฏขึ้น เราสามารถเลือกปิดหรืออนุญาตให้แอพพลิเคชั่นขออนุญาตจากเราก่อน หรือเปิด Location เฉพาะตอนที่เราใช้งานแอพพลิเคชั่นเท่านั้น

ปรับการตั้งค่ากราฟิกในเกมหรือปิดเสียงขณะเล่นเกม

ส 39452695

สำหรับเกมเมอร์ไม่ว่าจะเล่นเกมประเภทไหนโดยเฉพาะเกมใหญ่ๆ ที่ใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะ ยิ่งภาพกราฟิกสูงและเสียงที่ดังขณะเล่นเกมยิ่งทำให้สมาร์ทโฟนยิ่งกินแบตเตอรี่มากขึ้น การลดภาพกราฟิก การลดหรือปิดเสียงระหว่างเล่นเกมจะช่วยให้เราประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น นอกจากนี้การปิดเสียงจากลำโพงยังช่วยป้องกันการรบกวนผู้อื่นอีกด้วย

ปิดการรีเฟรชแอปพื้นหลัง

S 39452685 ด้านข้าง

แอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลังจะอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้อุปกรณ์ของเรากินแบตเตอรี่มากขึ้น สำหรับแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นต้องทำงานอยู่เบื้องหลัง วิธีปิดแอปพลิเคชันเหล่านี้มีดังนี้:

ที่หน้าจอหลัก >> การตั้งค่า >> ทั่วไป >> รีเฟรชแอปเบื้องหลัง >> รายชื่อแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลังจะปรากฏขึ้น เราสามารถเลือกเปิด/ปิดสวิตช์การทำงานเบื้องหลังของแอปพลิเคชันได้ตามต้องการ

ปิดการยกเพื่อปลุก (ยกอุปกรณ์ขึ้นเพื่อปลุกหน้าจออัตโนมัติ)

079486BB 8EC2 47BB B7D3 6353D27E0F66 1

ต้องยอมรับว่าฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะเวลาที่เราไม่ต้องกดปุ่ม iPhone ค้างไว้ แค่ยกเครื่องขึ้น หน้าจอก็จะเปิดขึ้นมา แต่หลายครั้งเวลาที่เราแค่ยกเครื่องขึ้นหรือจะหยิบใส่กระเป๋า หน้าจอก็จะเปิดขึ้นมาเองอัตโนมัติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ตลอดเวลา มันก็จะเปลืองแบตไปด้วย ดังนั้นการปิดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เราประหยัดแบตได้ แต่ถ้าเราต้องการดูแค่เวลาหรือการแจ้งเตือนต่างๆ การกดปุ่ม Power หรือปุ่ม Home น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยเฉพาะรุ่นที่ไม่มีปุ่ม Home ก็จะมีฟีเจอร์แตะหน้าจอเพื่อเปิดเครื่องอัตโนมัติ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยประหยัดแบตได้มากขึ้น

หากต้องการปิดคุณสมบัตินี้ คุณสามารถไปที่ การตั้งค่า >> จอภาพและความสว่าง >> ปิดสวิตช์ ยกขึ้นเพื่อปลุก

ปิดวิดเจ็ตที่ไม่ได้ใช้

S 11550956 ด้านข้าง

เมื่อเราเปิดใช้งานวิดเจ็ตจำนวนมาก ระบบในอุปกรณ์จะทำงานได้มากขึ้น หากมีวิดเจ็ตใดที่เราไม่ได้ใช้ เราก็สามารถปิดวิดเจ็ตเหล่านั้นได้ วิธีนี้จะช่วยให้ระบบทำงานน้อยลงและประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้มากขึ้น

บนหน้าจอหลักของ iPhone ให้ปัดไปที่หน้าวิดเจ็ต จากนั้นเลื่อนลงมา >> เลือกแก้ไข >> รายการวิดเจ็ตจะปรากฏขึ้น และคุณสามารถเลือกที่จะปิดได้

เทคนิคการถนอมอายุการใช้งานแบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟน

ในเมื่อเราได้พูดถึงเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีจัดการกับปัญหาแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือหมดไวๆ ไปแล้ว เรามาพูดถึงเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยรักษาแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของคุณ ป้องกันไม่ให้เสื่อมเร็ว และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นกันดีกว่า

  • หลีกเลี่ยงการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิร้อนหรือเย็นจัด เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนเสียหายได้ รวมไปถึงการทิ้งสมาร์ทโฟนไว้ในรถที่จอดไว้กลางแจ้ง
  • สำหรับผู้ใช้ iPhone แนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ Optimized Battery Charging ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่วิเคราะห์การชาร์จแบตเตอรี่ผ่าน AI โดยจะวิเคราะห์ช่วงเวลาที่เราใช้งานมากที่สุดและน้อยที่สุด รวมถึงช่วงเวลาที่เราชาร์จแบตเตอรี่บ่อยที่สุดด้วย เมื่อระบบรับรู้พฤติกรรมของเรา เมื่อเราเสียบปลั๊กทิ้งไว้ เช่น ขณะเข้านอน อุปกรณ์จะชาร์จแบตเตอรี่จนเหลือ 80% จากนั้นจะหยุดชาร์จ และเมื่อใกล้ถึงเวลาที่เราตื่น อุปกรณ์จะชาร์จใหม่จนเต็ม 100% เพื่อช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
    • คุณสามารถเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ได้โดยไปที่ การตั้งค่า >> แบตเตอรี่ >> สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ >> การชาร์จแบตเตอรี่ที่เหมาะสม
  • เลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จของแท้และได้มาตรฐาน เพราะจะทำให้แหล่งจ่ายไฟมีเสถียรภาพ มีกระแสไฟฟ้าไหลเข้าแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง ไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม อีกทั้งยังป้องกันปัญหากระแสไฟไหลย้อน ปัญหาการชาร์จไฟแล้วแบตเตอรี่เสื่อม หรือปัญหาความปลอดภัยอื่นๆ ได้อีกด้วย
  • ควรเลือกเคสที่ไม่สะสมความร้อน โดยเฉพาะเคสที่หนา เพราะจะทำให้ตัวเครื่องระบายอากาศได้ไม่ดี โดยส่วนใหญ่เคสจะทำมาจากยาง ดังนั้นควรหาเคสที่ระบายอากาศได้ดีจะดีกว่า หากใครกังวลว่าเคสที่บางเกินไปจะป้องกันอะไรไม่ได้ ปัจจุบันมีเคสกันกระแทกที่ผลิตออกมาแล้ว น้ำหนักเบา แข็งแรง และยังระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย
  • หลีกเลี่ยงการใช้ขณะชาร์จแบตเตอรี่ เพราะปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือจะทำให้ตัวเครื่องเกิดความร้อนสูง ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ นอกจากนี้การเล่นขณะชาร์จจะทำให้แบตเตอรี่คายประจุและเก็บประจุไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับในการแก้ปัญหาแบตเตอรี่มือถือหมดไวทั้งสมาร์ทโฟน iOS และ Android รวมถึงเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการยืดอายุแบตเตอรี่ที่ทีมงานได้นำมาฝากกัน สำหรับใครที่ประสบปัญหาแบตเตอรี่หมดไวหรือกำลังมองหาวิธียืดอายุแบตเตอรี่อยู่ ก็สามารถนำเคล็ดลับและวิธีการที่ทีมงานได้แนะนำไปลองทำดูเพื่อให้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้นานขึ้นตลอดทั้งวันและยืดอายุแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของคุณไม่ให้เสื่อมเร็วได้

Scroll to Top