การเลือกจอคอมรุ่นไหนเหมาะสมกับเรา

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เว็บไซต์ khaotv.online กลับมาอีกครั้งพร้อมสาระน่ารู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอที และมือถือ เช่นเคย โดยครั้งนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักเคล็ดลับสำคัญในการเลือกจอคอมพิวเตอร์ที่ใช่และเหมาะกับการใช้งานของคุณ

ในการเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับการเล่นเกม ปัจจัยที่ควรพิจารณาไม่ได้มีเพียงแค่ขนาดและดีไซน์ของหน้าจอเท่านั้น แต่ผู้ผลิตในปัจจุบันยังได้เพิ่มฟีเจอร์และคุณลักษณะพิเศษต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มมอนิเตอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการเล่นเกม ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานด้านนี้โดยตรง

ฟีเจอร์หลักที่ทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ได้แก่ อัตราการรีเฟรช หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการเล่นเกม เวลาตอบสนอง ที่ส่งผลต่อความเร็วในการแสดงภาพ และประเภทของแผงหน้าจอ ที่มีผลต่อคุณภาพของสี ความคมชัด และมุมมอง ทั้งสามปัจจัยเหล่านี้ไม่เพียงเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของจอภาพ แต่ยังส่งผลต่อระดับราคาของมอนิเตอร์อีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าทำไมทั้งสามปัจจัยนี้จึงมีความสำคัญ และเมื่อมองหาจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมในปี 2025 คุณควรให้ความสำคัญกับปัจจัยใดมากที่สุดเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างลงตัว

อัตราการรีเฟรช

Refresh rate คือตัวเลขที่บ่งบอกว่าจอภาพสามารถแสดงภาพได้กี่เฟรมใน 1 วินาที มีหน่วยเป็น Hz เช่น ถ้าบอกว่าจอภาพนี้มีค่า 120Hz แสดงว่าจอภาพสามารถแสดงภาพได้สูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาที ซึ่งเกี่ยวข้องกับค่าเฟรมเรตจากการ์ดจอ แต่ต้องเน้นย้ำว่า ค่ารีเฟรชเรตและเฟรมเรตไม่ใช่ค่าเดียวกัน รีเฟรชเรตเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอ ส่วนเฟรมเรตมาจาก GPU ที่ทำงานร่วมกับ CPU ในระบบ จอภาพทั่วไปจะมีค่ารีเฟรชเรตมาตรฐานที่ 60Hz

รูปภาพด้านบนแสดงให้เห็นว่าอัตราการรีเฟรชที่แตกต่างกันส่งผลต่อภาพที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไร ที่อัตรา 120Hz แต่ละเฟรมจะเปลี่ยนแปลงในเวลาเพียง 8.33 มิลลิวินาที ดังนั้นเราจึงเห็นการเคลื่อนไหวที่มีรายละเอียดมากขึ้นเมื่อเทียบกับ 60Hz ซึ่งเปลี่ยนเฟรมช้ากว่า 120Hz ประมาณสองเท่า ที่อัตรา 30Hz เฟรมจะยิ่งแย่กว่านั้น ราวกับว่าขาและแขนของคุณกำลังเต้นกระตุก นั่นเป็นเหตุผลที่เรามองเห็นภาพบนหน้าจอที่มีอัตราการรีเฟรชสูงที่ดูราบรื่นกว่า นั่นเป็นเพราะเราเห็นการเคลื่อนไหวที่มีรายละเอียดมากขึ้น

ในการเลือกมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมโดยคำนึงถึงอัตราการรีเฟรช แน่นอนว่ามอนิเตอร์ที่รองรับอัตราการรีเฟรชสูงนั้นหมายถึงสามารถใช้งานร่วมกับการ์ดจอรุ่นต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งเดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก และเครื่องเล่นเกมคอนโซล เพราะถึงแม้จะระบุว่ามอนิเตอร์รุ่นนี้เป็นมอนิเตอร์ความถี่ 144Hz แต่เมื่อใช้งานจริง มอนิเตอร์รุ่นนี้จะแสดงอัตราการรีเฟรชที่ตั้งไว้ในระบบปฏิบัติการเป็นหลัก ซึ่งปกติแล้วจะตั้งไว้ที่อัตราการรีเฟรชสูงสุดของหน้าจออยู่แล้ว เพื่อให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

ภาพฉีกขาดระหว่างการเล่นเกม1652682533270448

สำหรับการเล่นเกม วิธีที่ดีที่สุดคือใช้จอมอนิเตอร์ที่มีอัตราการรีเฟรชที่เหมาะสมกับอัตราเฟรมเรทของการ์ดจอ ซึ่งอยู่ที่อัตราส่วน 1:1 เช่น จอมอนิเตอร์ 144Hz จะเหมาะที่สุดสำหรับการเล่นเกมที่ 144fps แต่แน่นอนว่าจะมีบางกรณีที่ อัตราเฟรมเรทต่ำกว่าอัตรารีเฟรช เช่น จอมอนิเตอร์ 144Hz แต่คอมพิวเตอร์ของคุณทำได้แค่ 90fps เท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ ภาพจะไม่ได้รับผลกระทบ สามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่หาก อัตราเฟรมเรทสูงกว่าอัตรารีเฟรช เช่น การ์ดจอที่ขับได้ 200fps บนจอมอนิเตอร์ 60Hz ทั่วไป จะเกิดภาพฉีกขาดได้เนื่องจากจอมอนิเตอร์ไม่สามารถอัปเดตอัตราเฟรมเรทได้ทันกับข้อมูลที่การ์ดจอส่งมา

สำหรับกรณีหลังนี้สามารถแก้ไขได้โดยเปิด VSync ในเกมหรือหากมอนิเตอร์มีฟังก์ชั่นซิงค์ภาพกับการ์ดจอ เช่น NVIDIA G-SYNC หรือ AMD FreeSync และฝั่งการ์ดจอรองรับเทคโนโลยีเดียวกัน ระบบจะสื่อสารกันเพื่อปรับการส่งข้อมูลให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงภาพฉีกขาด มอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักรองรับ AMD FreeSync นอกจากนี้ FreeSync ยังสามารถใช้กับการ์ดจอ NVIDIA ได้อีกด้วย

วิวโซนิค VX2718 P MHD เกม 11

ดังนั้นหากเป็นไปได้ คุณควรเลือกมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมที่มีอัตราการรีเฟรชสูง เช่น 120Hz ขึ้นไป ซึ่งมาพร้อมกับ AMD FreeSync หรือหากงบประมาณเอื้ออำนวยและคุณใช้การ์ดจอ NVIDIA คุณก็สามารถเลือกมอนิเตอร์ที่รองรับ G-SYNC ได้ อย่างไรก็ตาม คุณควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ประเภทของแผง ขนาด ความละเอียด และพอร์ตเชื่อมต่อ อัตราการรีเฟรชที่นิยมใช้สำหรับมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกม ได้แก่ 144Hz, 165Hz, 240Hz และ 360Hz โดยล่าสุดคือ 480Hz

โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมที่ต้องใช้ฉากแอ็คชันรวดเร็วมากๆ เช่น เกม FPS เกมต่อสู้ หรือเกมแข่งรถ ควรเลือกจอมอนิเตอร์ที่มี Refresh Rate สูงๆ ก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสให้อีกฝ่ายเห็นเฟรมเรตที่เคลื่อนไหวรวดเร็วได้ดีขึ้น ควรวางแผนรับมือกับมันให้ดียิ่งขึ้น แต่หากเล่นเกมแนววางแผน เกมที่มีการแบ่งเทิร์นชัดเจน หรือเกมที่เฟรมเรตไม่เร็วมาก จอมอนิเตอร์ 60Hz ก็ยังพอไหว ขอแค่การ์ดจอดีพอที่จะรัน 60fps ได้อย่างลื่นไหลก็พอ

เวลาตอบสนอง

เป็นค่าที่ระบุความเร็วของพิกเซลที่ตอบสนองเมื่อเปลี่ยนจากสีหนึ่งไปเป็นอีกสีหนึ่งหรือเมื่อจอภาพเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันมีมาตรฐานสองมาตรฐานที่ใช้กับจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์โดยทั่วไปเพื่อระบุเวลาตอบสนองของจอภาพ:

  1. สีเทาถึงสีเทา (GtG) – ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงสีจากสีเทาหนึ่งไปเป็นอีกสีหนึ่ง
  2. เวลาตอบสนองของภาพเคลื่อนไหว (MPRT) – ระยะเวลาที่พิกเซลยังคงอยู่ในจอแสดงผลก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นภาพใหม่

img mnt ultragear 27gr95qe 09 1 0.03ms เวลาตอบสนอง gtg

ค่า Response Time ของ GtG อยู่ในอุตสาหกรรมจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์มายาวนานแล้ว เนื่องจากเป็นค่าที่วัดได้ไม่ยาก และมีค่าตัวเลขที่ต่ำมาก เช่น 1 มิลลิวินาที (ms) หรือ 3 มิลลิวินาที โดยยิ่งค่าตัวเลขต่ำ พิกเซลก็จะยิ่งเปลี่ยนสีได้เร็ว จึงตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเฟรมที่รวดเร็วได้ดี สำหรับจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกม ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมค่า Response Time ของ GtG เริ่มต้นที่ 4 มิลลิวินาที ในรุ่นราคาประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป

แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตจอมอนิเตอร์โดยเฉพาะจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมมักจะระบุเวลาตอบสนองในรูปแบบ MPRT ด้วยเช่นกัน เนื่องจากการวัดค่า MPRT จะช่วยระบุว่าจอมอนิเตอร์สามารถเปลี่ยนภาพได้เร็วแค่ไหน จะเกิดภาพซ้อนบนหน้าจอหรือไม่ และจะใช้มิลลิวินาทีในการระบุค่าด้วย แต่เนื่องจาก MPRT ระบุการเปลี่ยนแปลงในการแสดงผลของพิกเซล ตัวเลขที่ได้จึงจะไม่เกินเวลาแสดงผลของแต่ละเฟรม ตัวอย่างเช่น จอมอนิเตอร์ 144Hz จะมีเวลาตอบสนองของ MPRT ไม่เกิน 1/144 วินาที (6.9 มิลลิวินาที) เพราะหากเฟรมภาพเปลี่ยนแปลง พิกเซลจะถูกบังคับให้เปลี่ยนการแสดงผลอยู่ดี

อย่างไรก็ตามค่าเวลาตอบสนองของ MPRT อาจไม่ได้บ่งชี้ประสิทธิภาพหน้าจอ 100% เนื่องจากค่านี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานที่ทดสอบโดยแต่ละแบรนด์ อัตราการรีเฟรชของหน้าจอ และสายตาของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น หากดวงตาของคุณไม่ไวต่อแสงมากนัก คุณอาจใช้หน้าจอที่มีเวลาตอบสนองของ MPRT สูงกว่าเล็กน้อยได้โดยไม่มีปัญหา หากคุณต้องการวัดค่า MPRT ของหน้าจอที่คุณกำลังใช้ ให้ลองไปที่ เว็บไซต์ นี้

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ OSD 8

ในจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมบางรุ่น ผู้ผลิตอาจรวมฟังก์ชันประเภทโอเวอร์ไดรฟ์ที่ช่วยลดเวลาตอบสนองเพื่อให้ตอบสนองต่อเกมที่เคลื่อนไหวเร็วได้ดีขึ้น ส่งผลให้ภาพเบลอน้อยลงในจุดที่เคลื่อนไหว ฟังก์ชันนี้สามารถเปิดใช้งานได้เล็กน้อย แต่หากเปิดใช้งานมากเกินไปเป็นเวลานานเกินไป อาจส่งผลเสียต่อจอมอนิเตอร์ในระยะยาว อาการนี้เรียกว่าโอเวอร์ชู้ต (เงามัว ภาพติดตา) เนื่องจากปกติโอเวอร์ไดรฟ์จะต้องใช้แหล่งจ่ายไฟที่สูงกว่าปกติเล็กน้อย

ในการเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมในปี 2025 หากอยู่ในช่วงราคา 5,000 – 10,000 บาท มักจะมาพร้อมค่า GtG response time ที่ 5ms หรือต่ำกว่า และค่า MPRT (ถ้ามีกำหนด) ที่ 1ms ซึ่งก็อยู่ในช่วงที่ยอมรับได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ควรไปเห็นจอมอนิเตอร์จริงที่ร้านก่อนตัดสินใจซื้อจะดีกว่า เพราะสายตาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

MSI โมเดิร์น MD272QPW 155

ประเภทแผง – TN / IPS / VA

แผงหน้าจอเป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกถึงคุณภาพของหน้าจอ ปัจจุบันแผงหน้าจอที่ใช้มีอยู่ 3 ประเภทหลักๆ คือ TN, IPS และ VA โดยแต่ละประเภทใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละประเภทมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน ดังนี้

แผง TN

เป็นพาเนลที่อยู่คู่กับจอ LCD/LED มาอย่างยาวนาน โดยปัจจุบันพบอยู่ในกลุ่มมอนิเตอร์ที่มีราคาไม่แพงมากนัก (ต่ำกว่า 3,000 บาท) และกลุ่มมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมที่ออกแบบมาเพื่อเน้นการตอบสนองที่รวดเร็ว เนื่องจากพาเนล TN โดดเด่นในเรื่องค่า Response Time ต่ำที่สุดในบรรดาพาเนลทั้ง 3 ประเภทหลัก โดยอาจเร็วได้ตั้งแต่ต่ำกว่า 1 มิลลิวินาทีไปจนถึงช้าสุดที่ 4-5 มิลลิวินาที ซึ่งก็ยังถือว่าเร็วกว่าพาเนลประเภทอื่น ๆ อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถออกแบบให้มี Refresh Rate ที่สูงมาก ๆ ได้ด้วย จึงมักเกิดภาพเบลอ ภาพค้างหรือแทบไม่มีเลย และค่า Input Lag ต่ำ ดังนั้นมอนิเตอร์ที่ใช้พาเนล TN จึงเหมาะกับการเล่นเกม FPS เกมต่อสู้ และเกมแอคชั่นที่ต้องการการเคลื่อนไหวที่เร็วมาก ๆ ดังนั้นเราจึงจะเห็นมอนิเตอร์สำหรับอีสปอร์ตหลาย ๆ ตัวเลือกใช้พาเนล TN เป็นหลัก

โซวี่ XL2746S 94

แต่พาเนล TN ก็มีข้อเสียในเรื่องของสีสันและมุมมองที่แคบกว่าพาเนลอื่นๆ เนื่องด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยี ในแง่ของขอบเขตสีนั้นโดยทั่วไปสามารถเข้าถึง 100% sRGB ได้สูงสุด และมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ให้คอนทราสต์ได้สูงถึง 1000:1 มุมมองตามทฤษฎีอยู่ที่ 170 องศาในแนวตั้งและ 160 องศาในแนวนอน ซึ่งในความเป็นจริงอาจน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ ดังนั้นหากมองจากด้านข้างหรือด้านบนของหน้าจอ คุณจะพบว่าภาพมีสีและความสว่างที่ผิดเพี้ยน และสีก็แตกต่างจากภาพจริง อย่างไรก็ตาม หากนำไปใช้ในการเล่นเกมก็ไม่มีปัญหาใดๆ เลย เพราะปกติแล้วเมื่อเล่นเกมด้วยจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะต้องนั่งอยู่ตรงกลางหน้าจอ

แผง IPS

IPS ย่อมาจาก In-plane switch ซึ่งหมายถึงวิธีการวางและบิดคริสตัลในแนวนอนเมื่อจ่ายไฟให้กับจอภาพ นี่คือจุดเด่นของ IPS ที่มีมุมมองกว้างสูงสุดถึง 178/178 องศา นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการแสดงสีที่ดี สามารถแสดงสีได้สูงถึง 100% DCI-P3 หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแผงหน้าจอ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้เป็นจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ที่เน้นสีสันและความแม่นยำของสีเพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงสำหรับการทำงานและการเล่นเกม แม้จะมองหน้าจอจากด้านข้างก็ยังได้ภาพที่คมชัด

DSC00359

ข้อเสียของจอ IPS คือ สีดำจะไม่ดำสนิทเหมือนจอ TN และ VA เพราะไม่สามารถสร้างคอนทราสต์สูงได้ บางรุ่นอาจมีจุดสว่างเมื่อภาพเป็นสีดำ (IPS Glow) ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของจอ IPS ส่วน Response Time จะสูงกว่า TN พอสมควร โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 5-7 ms ถึงแม้จะพัฒนาให้เร็วกว่าและเกือบเท่า TN ก็ตาม แต่ก็จะพบได้ในรุ่นที่มีราคาแพงกว่าปกติ อัตราการรีเฟรชจะเท่ากัน หากเปรียบเทียบในช่วงราคาเดียวกัน จอ IPS มักจะมีอัตราการรีเฟรชสูงสุดต่ำกว่าจอ TN และ VA อย่างเห็นได้ชัด อาจมีบางรุ่นเท่านั้นที่สามารถแข่งขันได้ แต่บ่อยครั้งก็มักจะลดสเปกในด้านอื่นๆ ลงเพื่อคงราคาเอาไว้ได้

จอมอนิเตอร์แบบ IPS เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นเกมหรือทำงานกราฟิกที่ต้องการภาพที่สวยงาม สีสันที่แม่นยำ และมุมมองที่กว้างสมจริง โดยเฉพาะเกมที่มีภาพที่สวยงามและเอฟเฟกต์สุดตระการตา อาจไม่จำเป็นต้องเน้นที่เวลาตอบสนองที่รวดเร็วที่สุด และไม่ได้นำมาใช้ในกีฬาอีสปอร์ตอย่างจริงจัง

แผง VA

ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเป็นพาเนลที่อยู่ระหว่าง TN และ IPS ในด้านของสีและมุมมองภาพ โดยจะมีประสิทธิภาพดีกว่า TN แต่ไม่ถึงระดับ IPS เมื่อดูจากด้านข้างหรือด้านบนจะมีความเพี้ยนของสีและความสว่างน้อยกว่า TN หรือแทบจะไม่มีเลย ที่น่าสนใจคือสามารถสร้างคอนทราสต์ได้ดีกว่า IPS มาก โดยมักจะเริ่มต้นที่ 2000:1 ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันสวยงาม ดำสนิท และให้ภาพที่มีมิติ จึงเหมาะกับการใช้งานเป็นจอภาพเพื่อความบันเทิง ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูภาพยนตร์ ส่วนค่า Response Time ถือว่าดีหรือไม่ดี เพราะช่วงค่าค่อนข้างกว้าง มีตั้งแต่ช้ากว่า IPS ไปจนถึงใกล้เคียง TN (แต่ก็ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง) ทั้งนี้ต้องตรวจสอบเป็นรายรุ่น ทั้ง GtG และ MPRT

ครอสแฮร์ 8

อัตราการรีเฟรชเป็นอีกจุดหนึ่งที่ VA เหนือกว่า โดยอยู่ตรงกลางระหว่าง TN และ IPS หากเปรียบเทียบจอภาพที่มีอัตราการรีเฟรชสูงสุดเท่ากันและมีคุณสมบัติโดยรวมเหมือนกัน จอภาพ VA มักจะมีราคาถูกกว่าจอภาพ IPS เล็กน้อย ซึ่งทำให้จอภาพที่ใช้แผง VA เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากตอบสนองความต้องการด้านสีได้ดีกว่า TN ในหลายๆ รุ่น อัตราการรีเฟรชดีกว่า IPS ถึงแม้ว่าเวลาตอบสนองจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าคุณไม่ได้เล่นเกมจริงจังก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ สำหรับมุมมองภาพอาจไม่กว้างเท่า IPS แต่ถ้าคุณนั่งใช้งานหน้าจอเพียงอย่างเดียว ก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

ดังนั้นจอภาพแบบ VA จึงเหมาะสำหรับการเล่นเกม การชมภาพยนตร์ หรือการทำงานอื่นๆ ที่ต้องการสีสันสดใส ภาพมีขนาดที่ดีจากสีดำสนิทและสีขาวสว่างในราคาที่เอื้อมถึงได้มากกว่า IPS นอกจากนี้ คุณยังสามารถซื้อจอภาพเหล่านี้เพื่อใช้ในการทำงานหรือทำงานที่ไม่ต้องการความแม่นยำของสีระดับมืออาชีพได้อีกด้วย

Mi Curved 34 144Hz เกมมิ่ง 76

สรุป – ฉันควรเลือกจอภาพสำหรับเล่นเกมตัวไหน?

จากปัจจัยหลัก 3 ประการข้างต้น หากคุณต้องเลือกจอคอมพิวเตอร์มาใช้เล่นเกม คุณสามารถสรุปได้ดังนี้

เน้นเกมมิ่ง เน้นอีสปอร์ตจริงจัง

เลือกจอแสดงผล TN ที่เน้นอัตราการรีเฟรชที่สูงและเวลาตอบสนองที่ต่ำที่สุด

เน้นเล่นเกมยิงแบบรวดเร็ว FPS / TPS / Action

เลือกหน้าจอ TN ที่เน้นอัตราการรีเฟรชที่สูงและเวลาตอบสนองที่ต่ำที่สุด แต่หากมีงบประมาณเพียงพอ ก็สามารถพิจารณากลุ่มหน้าจอ IPS ได้

เน้นเล่นเกมที่มีเนื้อเรื่อง / Cinematic / RPG / MOBA / Simulation / เกมทั่วไป เน้นเล่นเกมที่สนุก ดูหนังบ้าง

เลือกมอนิเตอร์แบบ IPS หรือ VA ที่มีค่าสีที่ดีและความละเอียดสูงที่การ์ดจอรองรับได้ ส่วนอัตราการรีเฟรช หากเป็นไปได้ ให้ตั้งค่าไว้ที่ 144Hz ขึ้นไป เผื่อไว้สำหรับอัพเกรดการ์ดจอในอนาคต เพราะมอนิเตอร์ 144Hz ในปัจจุบันมีราคาถูกลงมาก แต่หากงบประมาณของคุณจำกัดจริงๆ มอนิเตอร์ 75Hz สำหรับการทำงานก็ยังพอรับได้ เล่นเกมได้สบายๆ

เน้นเล่นเกมกีฬา เช่น FIFA / Forza

ให้เลือกจอมอนิเตอร์ที่มีการตั้งค่า Gaming Mode เพื่อลด Input Lag ให้เหลือน้อยที่สุด ส่วนเรื่อง Refresh Rate ให้เลือกจอมอนิเตอร์ที่มี Refresh Rate สูงสุดที่เหมาะกับการ์ดจอของคุณ เพื่อไม่ให้เกมแลคขณะเล่นเกม หากเป็นไปได้ ให้เลือกจอมอนิเตอร์ที่มีเทคโนโลยี Image Sync ให้เหมาะกับการ์ดจอของคุณ ส่วนเรื่อง Response Time หากเป็นจอมอนิเตอร์ราคา 5,000 บาทขึ้นไป ส่วนใหญ่ก็จะสามารถเล่นเกมในกลุ่มนี้ได้ไม่แตกต่างกันมาก เพราะแม้จะเล่นผ่านทีวีก็สามารถทำได้สบายๆ

ถ้าเป็นพาเนลแบบ IPS จะดีมากครับ เพราะจะได้ภาพที่สวยงาม ส่วน VA ก็ไม่ได้ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นครับ

เน้นเล่นเกมคอนโซล PS5 / Xbox / Switch

เลือกใช้ได้ทั้ง VA หรือ IPS หากใช้ VA คุณจะได้ภาพที่ดูมีสีสันเต็มอิ่มขึ้นและอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้น เพราะหากเป็นรุ่นคอนโซลใหม่ เช่น PS5 และ Xbox Series S | X ก็จะได้รับการออกแบบมาให้รองรับหน้าจอ 120Hz ได้ดี ความละเอียดเริ่มต้นที่ Full HD 1920 × 1080 ซึ่งเหมาะกับคอนโซลทุกรุ่น โดยเฉพาะ Nintendo Switch หรือหากต้องการอัปเกรดขึ้นไปอีก แนะนำให้ข้ามไปที่ 4K 3840 × 2160 ส่วนหน้าจอ Ultra-wide หรือหน้าจอ 21:9 ก็ไม่แนะนำ เพราะระบบคอนโซลและเกมส่วนใหญ่มักออกแบบมาสำหรับหน้าจออัตราส่วน 16:9 หากใช้ในหน้าจอ 21:9 อาจพบขอบดำขนาดใหญ่ทั้งสองด้านของหน้าจอ หรือแย่ไปกว่านั้นคือภาพจะถูกยืดออกในแนวนอนจนเต็มหน้าจอ

Scroll to Top